หน้าจอใหญ่ ช่วยให้ทำงานสะดวก
เชื่อมต่อผ่านสาย HDMI
คำว่า Screen Mirroring หมายถึง การแสดงผลหน้าจอมือถือ (SmartPhone) แท็ปเล็ต (Tablet) หรือคอมพิวเตอร์ (Computer) ไปยังหน้าจอทีวี ในลักษณะไร้สายผ่านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Miracast โดยไม่จำเป็นต้องใช้สาย HDMI แตอย่างไร โดยปกติ สมาร์ททีวีส่วนใหญ่ จะรองรับเทคโนโลยี Miracast
สรุปส่งท้าย การใช้งานหน้าจอทีวี หรือหน้าจอใดๆ ที่มีขนาดใหญ่ อาจส่งผลเสียกับสายตาของเราได้ โดยการการจ้องเป็นเวลานานๆ ดังนั้น การใช้งานต่อเนื่อง ควรมีเวลาพักอย่างน้อย 10-15 นาที ต่อการใช้งาน 1-3 ชั่วโมง
จะดีไหม ถ้าเราสามารถทำงาน เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ บนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ หมายถึงหน้าจอบนทีวีของเรา บางบ้านอาจมีทีวีขนาด 32, 50, 55, 65 หรือ 75 นิ้ว เป็นต้น
หน้าจอใหญ่ ช่วยให้เราสามารถมองเห็นตัวอักษร ตัวเลขได้ถนัดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งการทำงานบนหน้าจอเป็น 2 ด้าน ทำให้สามารถเปิดดูข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งอย่างในเวลาเดียวกัน และแน่นอนทำให้ทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ใช้งาน Notebook / Tablet ที่มีหน้าจอขนาดเล็ก อาจซื้อหน้าจอคอมฯ ที่มีขนาดใหญ่ มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ ทำให้สะดวกได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับความต้องการและอุปกรณ์ในการใช้งานเป็นหลักว่า อยากจะได้ทีวีเป็นจอที่ช่วยขยาย หรือจะเน้นใช้เป็นจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียว
วิธีการเชื่อมต่อ Notebook แสดงบนทีวี
- เชื่อมต่อด้วยสาย HDMI
- เชื่อมต่อผ่านระบบ Screen Mirroring
- เชื่อมต่อผ่านระบบ ChromeCast
เชื่อมต่อผ่านสาย HDMI
วิธีนี้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่บางคนอาจรู้สึกคำราญของสายที่หนา และดูเกะกะ วิธีนี้ เพียงแค่นำสาย HDMI มาเชื่อมต่อเข้ากับ Notebook อีกด้านหนึ่งต่อเข้าพอร์ต HDMI หลังทีวี เพียงเท่านี้ หน้าจอของเราก็สามารถแสดงบนหน้าจอทีวีได้แล้ว
กรณีอุปกรณ์ของเราไม่มีพอร์ต HDMI แนะนำว่า ให้ไปหาซื้ออุปกรณ์แปลงสัญญาตามร้านไอทีทั่วไป
เชื่อมต่อผ่านระบบ Screen Mirroring
คำว่า Screen Mirroring หมายถึง การแสดงผลหน้าจอมือถือ (SmartPhone) แท็ปเล็ต (Tablet) หรือคอมพิวเตอร์ (Computer) ไปยังหน้าจอทีวี ในลักษณะไร้สายผ่านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Miracast โดยไม่จำเป็นต้องใช้สาย HDMI แตอย่างไร โดยปกติ สมาร์ททีวีส่วนใหญ่ จะรองรับเทคโนโลยี Miracast
วิธีใช้งาน ให้กดปุ่ม "Source" บนรีโมทคอนโทรล เลือกคำสั่ง Screen Mirroring กดปุ่ม Windows logo + K พร้อมกัน (กรณีใช้คอมพิวเตอร์) หรือเลือกกดปุ่ม "Smart View" บนสมาร์ทโฟน (Samsung) จากนั้นให้คลิกเลือกชื่อ TV
สำหรับสมาร์ทโฟน Samsung ที่รองรับเทคโนโลยี "Dex" สามารถเชื่อมต่อผ่าน Screen Mirroring ได้เช่นกัน แต่การใช้งาน จะต้องมีการเชื่อมต่อ Mouse / Keyboard ด้วย
สำหรับสมาร์ทโฟน iPhone หรืออุปกรณ์ iOS ทีวีที่จะเชื่อมต่อ จะต้องรองรับ AppleTV
สำหรับสมาร์ทโฟนบางรุ่นของ Android อาจไม่รองรับการเชื่อมต่อ Screen Mirroring (โดยเฉพาะรุ่นเล็ก) ดังนั้น จึงควรศึกษารายละเอียดก่อนการใช้งาน นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติ iOS จากค่าย Apple
เชื่อมต่อผ่า่นระบบ ChromeCast
เทคโนโลยี ChromeCast เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Google การจะใช้การเชื่อมต่อวิธีนี้ เราจำเป็นจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่ชื่อว่า Google ChromeCast (กล่องทีวีในบ้านเรา บางรุ่นก็มีการติดตั้งไว้แล้ว) โดยติดต่อผ่านพอร์ต HDMI บนทีวี แต่การใช้งานเพิ่มต้น Google ChromeCaast จะต้องมีการ setup ก่อนการใช้งาน
เทคโนโลยี ChromeCast เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Google การจะใช้การเชื่อมต่อวิธีนี้ เราจำเป็นจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่ชื่อว่า Google ChromeCast (กล่องทีวีในบ้านเรา บางรุ่นก็มีการติดตั้งไว้แล้ว) โดยติดต่อผ่านพอร์ต HDMI บนทีวี แต่การใช้งานเพิ่มต้น Google ChromeCaast จะต้องมีการ setup ก่อนการใช้งาน
ทิปเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ChromeCast เราสามารถเชื่อมต่อโดยใช้ Web browser อย่าง Google Chrome บนคอมพิวเตอร์แสดงผลบนหน้าจอทีวีได้ เพียงแค่เปิด Google Chrome จากนั้น คลิกปุ่ม 3 จุดที่มุมขวาของโปรแกรม จากนั้นคลิกเลือกคำสั่งบนเมนูชื่อ "Cast" รอสักพัก หน้าจอคอมฯ ก็จะไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้เช่นกัน
คุณทราบหรือไม่ว่า iPhone สามารถเชื่อมต่อ ChromeCast ได้ โดยใช้เทคโนโลยี "Cast" เพื่อดูวีดีโอผ่าน YouTube ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Apple TV
ข้อดี ข้อเสีย
- สาย HDMI ให้คุณภาพเสียงและภาพดี ไม่มีปัญหาเรื่องภาพหน่วง หรือช้า
- Screren Mirroring สะดวก ไม่มีสายให้เกะกะ แต่อาจมีปัญหาการแสดงผลที่หน่วง หรือ Delay
- ChromeCast ให้คุณภาพเสียงและภาพดี แต่ข้อเสียคือ ต้องเสียเงินซื้อ ChromeCast เพิ่มเติม
การใช้งานตามขั้นตอนข้างต้น อาจแตกต่างกันไปบ้าง ขึันกับ แบรนด์และรุ่นของทีวี รวมทั้งสมาร์ทโฟนที่นำมาเชื่อมต่อ ดังนั้น อาจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดจากคู่มือของแต่ละแบรนด์เพิ่มเติม
สรุปส่งท้าย การใช้งานหน้าจอทีวี หรือหน้าจอใดๆ ที่มีขนาดใหญ่ อาจส่งผลเสียกับสายตาของเราได้ โดยการการจ้องเป็นเวลานานๆ ดังนั้น การใช้งานต่อเนื่อง ควรมีเวลาพักอย่างน้อย 10-15 นาที ต่อการใช้งาน 1-3 ชั่วโมง
Tags:
เทคโนโลยี