วิธีเลือกซื้อสายชาร์จ

ทำความรู้จัก สายชาร์จมือถือ

สายชาร์จมือถือ เป็นอุปกรณ์ในเชื่อมต่อมือถือ เพื่อวัตถุประสงค์หลัก 2 อย่าง คือ ชาร์จไฟ และโอนข้อมูล รูปภาพหรือวีดีโอ คุณทราบหรือไม่ว่า สายชาร์จนี้ มีความสำคัญมาก ถ้าเลือกซื้อเลือกใช้งานไม่ถูก อาจส่งผลกระทบกับมือถืออันเป็นที่รักยิ่งของเรา อย่างมาก..

หลายคนอาจคิดว่า สายชาร์จ สามารถเลือกซื้อและนำมาใช้งานได้ ไม่ว่าจะซื้อมาในราคา 10 บาท 20 บาท แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระวัง! มือถือหรือสมาร์ทโฟน อาจเสียหายหรือพังได้ง่าย

ประเภทของสายชาร์จ

• สาย Lightning
  สำหรับอุปกรณ์ของค่าย Apple โดยเฉพาะ
• สาย USB Type-C
  สายชาร์จที่เป็นที่นิยมใช้งาน สะดวก สามารถเสียบได้ทันทีไม่ว่าจะเสียบสายด้านไหน หรือจะกลับด้าน
• สาย Micro USB
  สายชาร์จที่มีขนาดเล็ก เวลาใช้งาน ต้องเสียบให้ถูกด้าน เป็นสายที่ใช้กับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
• สาย 3 in 1 หรือ 2 in 1
  สาย USB จะมาพร้อมกับ สายที่แยกออกเป็น 3 หรือ 2 อาจเป็น Lightning, USB Type C หรือสาย Micro USB ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการของอุปกรณ์ที่มีจุดเชื่อมต่อต่างกัน สายประเภทนี้ เวลาเลือกซื้อ ควรตรวจสอบให้ดีว่า สามารถใช้งานได้ทั้งการชาร์จไฟ และโอนย้ายไฟล์ข้อมูลได้หรือไม่ ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับวัตถุประสงค์และการใช้งานของผู้ซื้อเป็นหลัก
• สายชาร์จ สำหรับสมาร์ทวอทช์

ข้อความทราบเกี่ยวกับคุณสมบัติของสายชาร์จ

• สายชาร์จบางรุ่น อาจรองรับการชาร์จ แต่ไม่รองรับการโอนข้อมูล
• สายชาร์จคุณภาพต่ำ เวลาชาร์จไฟ อาจทำให้เครื่องร้อน และส่งผลกับมือถือ
• Fast Charge / Super Fast Charge การเลือกซื้ออุปกรณ์ จำเป็นจะต้องตรวจสอบว่า มือถือ ของเรารองรับการชาร์จไฟแบบด่วนๆ หรือไม่ และการเลือกซื้อ จะต้องซื้อทั้ง สายชาร์จและปลั๊กที่รองรับการชาร์จแแบบด่วนด้วยเช่นกัน ไม่สามารถเลือกอย่างหนึ่งอย่างใดได้
• ราคาของสายชาร์จแบบด่วน อาจมีราคาตั้งแต่หลักหลายร้อยถึงหลักพัน

วิธีเลือกซื้อสายชาร์จ (อย่างง่าย)

แนะนำว่า ควรเลือกสายชาร์จที่ได้มาตราฐาน แต่เราจะทราบได้อย่างว่า สายประเภทไหน คือสายชาร์จที่ได้มาตราฐาน แน่นอน เป็นเครื่องค่อนข้างยาก แต่วิธีง่ายๆ คือ เลือกซื้อสายชาร์จโดยตรงจากผู้ผลิตมือถือ หรือเลือกซื้อสายชาร์จที่มีแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง และเป็นที่ยอมรับ อย่างเช่น

• Apple - แนะนำ
• Anker
• Aukey
• Belkin - แนะนำ
• Remax
• Nomad
• Unitek 
• Ugreen

ข้อควรระวังการชาร์จไฟ (ถ้าไม่อยากให้อุปกรณ์ได้รับความเสียหาย)

ทุกครั้ง ที่มีการชาร์จไฟ ควรทดสอบโดยการจับตัวมือถือ ว่ามีความร้อนสูงขึ้นผิดปกติหรือไม่ เพราะความร้อนที่เกิดขึ้น จะส่งผลกับอุปกรณ์และอายุการใช้งานของมือถือโดยตรง แนะนำว่า ถ้าร้อนมาก ให้หยุดทำการชาร์จไฟทันที การชาร์จ ควรชาร์จในห้องที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็น ไม่ควรรชาร์จในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตัวเครื่องโดยตรง

อะไรๆ ก็ไร้สาย รวมถึงอุปกรณ์ในการชาร์จไฟ

สรุปส่งท้าย อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบ "ไร้สาย" หรือ "Wireless Charger" ก็เป็นอีกหนึ่งของเทคโนโลยีทางเลือกของใครหลายๆ คน ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถพบเห็น Wireless Charger ได้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในหลายๆ แบรนด์ แต่..ควรตรวจสอบว่า สมาร์ทโฟนหรือมือถือ รุ่นที่เราใช้งานอยู่ รองรับการชาร์จไฟ แบบไร้สาย หรือไม่ แต่ถ้าเราจะเลือกซื้ออุปกรณ์ประเภทนี้ ก็ควรตรวจสอบให้ดีด้วยเช่นกัน เพราะจะมีให้เลือกว่า สามารถชาร์จได้แบบไหน ชาร์จปกติ (ช้า) หรือชาร์จได้เร็วด้วยเช่นกัน