คุณยังขับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือไม่
สุดท้าย โดยเฉพาะคนที่ขับรถยนต์ในเมืองใหญ่ อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร คงทราบดีว่า เวลาไหน ควรขับ (ก่อน 7 โมงเช้า) เวลาไหนไม่ควรขับ (4-6 โมงเย็น) และถ้าให้ดี แนะนำให้ตรวจสอบสภาพการจราจร ด้วย Google Map ก่อนการเดินทาง จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่า ความนิยมในรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม ปี พ.ศ. 2566 ปริมาณรถยนต์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ ก็ยังคงเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง หลายคนอาจไม่พร้อมที่จะเปลี่ยน ดังนั้น การประหยัดน้ำมัน น่าจะเป็นทางออกในช่วงเวลานี้
ทดสอบขับรถให้ประหยัดน้ำมัน
จริงหรือไม่ เราสามารถขับรถให้ประหยัดน้ำมันได้ ทั้งๆ ที่ระยะทางเท่ากัน น้ำหนักของตัวรถยนต์และจำนวนคนนั่งก็เท่ากัน เรื่องนี้ แต่ก่อนอาจไม่ได้นึกถึงมากสักเท่าไหร่ แต่มาวันนี้ ถ้าสามารถประหยัดเงินค่าน้ำมันได้บ้างในแต่ละวัน แต่ละเดือน น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ก่อนเขียนบทความนี้ ได้ทำการทดสอบขับรถยนต์ (จริง) เพื่อทดสอบว่า จะมีวิธีที่สามารถประหยัดน้ำมันได้มากน้อยเพียงใด และจากการไปศึกษาวิธีต่างๆ พอสรุปเป็นแนวทางที่สามารถใช้งานได้จริง ดังนี้
เคล็ดไม่ลับขับรถประหยัดน้ำมัน
- ขับรถด้วยความเร็วประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- การเร่งเครื่อง แนะนำให้เร่งแบบช้าๆ
- การลดความเร็วเพื่อจอด แนะนำให้ปล่อยเท้าคันเร่ง และใช้ความเร็วที่เหลือ พยายามจอดรถ
- กรณีที่จำเป็นในการเร่งเครื่อง เพื่อแซง แนะนำให้แซงและกลับมาขับด้วยความเร็วปกติ
- ขับแบบเร่งเครื่องยนต์ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน (มาก) และเสียงดัง รบกวนคนรอบข้าง
- หลีกเลี่ยงการขับรถยนต์แซงไปมา เพราะเวลาแซงปกติจะต้องเร่งเครื่อง ทำให้เปลืองน้ำมัน (สุดๆ)
- ไม่บรรทุกของที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะส่งผลให้น้ำหนักรถมาก ย่อมกินน้ำมันเป็นเรื่องปกติ
- เปิดแอร์ ให้มีความเย็นปกติ ไม่เร่งพัดลมมากเกินไป
ผลการทดสอบขับรถยนต์ด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม.ต่อชั่วโมง
- Previous Drive (ก่อนหน้า)
ขับรถแบบไม่ได้สนใจเรื่องความเร็ว ช้าบาง เร็วบ้าง - Current Drive (ปัจจุบัน)
ขับรถแบบตั้งใจ พยายามไม่แซง และขับความเร็วแบบคงที่ ความเร็วอยู่ระหว่าง 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ผลลัพธ์ที่ได้ ประหยัดน้ำม้นได้มาก เพราะจากภาพ เดิมขับได้ 7.1 กิโลเมตรต่อลิตร หลังตั้งใจขับ ขับได้ถึง 12.7 กิโลเมตรต่อลิตร สรุปคือ น้ำมัน 1 ลิตร ขับได้ไกลกว่าเดิม 5.6 กืโลเมตรเลยทีเดียว ได้ระยะทางเกือบเท่าตัว ถ้าน้ำมันราคา 33 บาท จะประหยัดได้ถึง 26.03 บาทต่อลิตรเลยทีเดียว
ทิปเพิ่มเติม ขับรถให้ประหยัดน้ำมัน
- ลมยาง ควรเติมให้พอเหมาะ โดยปกติรถยนต์จะเติมประมาณ 25-35 ปอนต์ต่อตารางนิ้ว (PSI) ขึ้นกับขนาดของรถยนต์แต่ละประเภท รถยนต์ขนาดกลางประมาณ 30-33 ปอนด์
- ถ่ายน้ำมันเครื่องโดยสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานปกติ ไม่กินน้ำมันมากเกินความจำเป็น
- ขณะรถติด ก็สิ้นเปลืองน้ำมันได้เช่นเดียวกัน
- การเหยียบเบรค แบบย้ำๆ ก็ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
สุดท้าย โดยเฉพาะคนที่ขับรถยนต์ในเมืองใหญ่ อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร คงทราบดีว่า เวลาไหน ควรขับ (ก่อน 7 โมงเช้า) เวลาไหนไม่ควรขับ (4-6 โมงเย็น) และถ้าให้ดี แนะนำให้ตรวจสอบสภาพการจราจร ด้วย Google Map ก่อนการเดินทาง จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี
Tags:
รักษ์โลก